37.77.123.12 - การสืบค้น IP: การสืบค้นที่อยู่ IP ฟรี, การสืบค้นรหัสไปรษณีย์, การสืบค้นตำแหน่ง IP, IP ASN, IP สาธารณะ
ประเทศ/ภูมิภาค:
รัฐ/จังหวัด:
เมือง:
ละติจูดและลองจิจูด:
โซนเวลาท้องถิ่น:
รหัสไปรษณีย์:
ข้อมูล IP ภายใต้ไลบรารีความละเอียด IP ต่างๆ
ip-api
ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
เมือง
ASN
โซนเวลาท้องถิ่น
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
บัญชีดำ
พร็อกซีไอพี
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
Route
Luminati
ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
62
เมือง
rome
ASN
โซนเวลาท้องถิ่น
Europe/Rome
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
Shellnet S.p.A.
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
IPinfo
ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
เมือง
ASN
โซนเวลาท้องถิ่น
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
บัญชีดำ
พร็อกซีไอพี
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
Route
IP2Location
37.77.123.12ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
lazio
เมือง
ripa
โซนเวลาท้องถิ่น
Europe/Rome
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
ภาษา
User-Agent
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
db-ip
ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
เมือง
ASN
โซนเวลาท้องถิ่น
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
บัญชีดำ
พร็อกซีไอพี
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
Route
ipdata
ประเทศ/ภูมิภาค
รัฐ/จังหวัด
เมือง
ASN
โซนเวลาท้องถิ่น
ผู้ให้บริการดำเนินการเครือข่าย
บัญชีดำ
พร็อกซีไอพี
ละติจูด
ลองจิจูด
รหัสไปรษณีย์
Route
สถานที่และกิจกรรมยอดนิยมใกล้ที่อยู่ IP นี้
โรม
เมืองหลวงของประเทศอิตาลี
ระยะทาง: ประมาณ 1626 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.88333333,12.5
โรม (อังกฤษ: Rome) หรือชื่อในภาษาอิตาลีและละตินคือ โรมา (อิตาลีและละติน: Roma [ˈroːma] ( ฟังเสียง)) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัตซีโยและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ด้วยจำนวนผู้อยู่อาศัย 2,860,009 คนในพื้นที่ 1,285 ตารางกิโลเมตร (496.1 ตารางไมล์) โรมจึงเป็นชุมชนที่มีประชากรมากที่สุดของประเทศ และเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรปเมื่อนับตามจำนวนประชากรทั้งหมดในเขตเมือง และหากนับรวมในเขตมหานครทั้งหมดจะมีประชากรกว่า 4.3 ล้านคนซึ่งเป็นเขตเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในประเทศ กรุงโรมตั้งอยู่บริเวณตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรอิตาลี ตามแนวชายฝั่งของหุบเขาไทเบอร์ โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งนิกายโรมันคาทอลิก โดยวาติกันมีสถานะเป็นรัฐเอกราชที่ขนาดเล็กที่สุดในโลก จึงทำให้โรมเป็นเมืองแห่งเดียวในโลกที่มีนครรัฐหรือประเทศตั้งอยู่ โรมมักถูกเรียกว่าเมืองแห่งเนินเขาทั้งเจ็ดเนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ โรมถือเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมคริสเตียนตะวันตก และเป็นศูนย์กลางของคริสตจักรคาทอลิก ประวัติศาสตร์โรมกินเวลายาวนานกว่า 28 ศตวรรษ แม้ปรัมปราโรมันจะอ้างว่ากรุงโรมก่อตั้งเมื่อประมาณ 753 ปีก่อนคริสตกาล ทว่าหลักฐานที่พบชี้ให้เห็นว่าบริเวณแห่งนี้เคยมีผู้อยู่อาศัยยาวนานกว่านั้นมาก ทำให้ที่ตั้งของโรมเป็นชุมชนสำคัญของมนุษย์เป็นเวลากว่าสามพันปี และเป็นหนึ่งในเมืองที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปที่ถูกปกครองและมีมนุษย์อาศัยอยู่ ประชากรรุ่นบุกเบิกของเมืองสืบเชื้อสายจากการผสมผสานระหว่างชาวละติน, อิทรัสคัน, และซาบีนส์ ก่อนที่เมืองนี้จะกลายเป็นศูนย์กลางของราชอาณาจักรโรมัน, สาธารณรัฐโรมัน และจักรวรรดิโรมันตามลำดับ และได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางให้เป็นมหานครแห่งแรก โรมถูกเรียกครั้งแรกว่า "เมืองอันเป็นนิรันดร์" (ละติน: Urbs Aeterna; อิตาลี: La Città Eterna) โดยอัลเบียส ทิบุลลัส กวีชาวโรมัน ในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช และมีการใช้ชื่อนี้อย่างต่อเนื่องในบทกวีโบราณของออวิด, เวอร์จิล และลิวี ในช่วงเวลานั้น โรมยังได้รับการขนานนามว่า Caput Mundi (เมืองหลวงของโลก) ภายหลังการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตก ซึ่งถือเป็นจุดกำเนิดของสมัยกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์ พระสันตะปาปาเกือบทั้งหมดนับตั้งแต่สมเด็จพระสันตะปาปานิโคลัสที่ 5 (ค.ศ. 1447–1455) ริเริ่มการก่อสร้างทางสถาปัตยกรรม และเมืองด้วยรูปแบบที่สอดคล้องกันเป็นเวลากว่าสี่ร้อยปี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้เมืองนี้เป็นศูนย์กลางทางศิลปะและวัฒนธรรมของโลก ทำให้โรมกลายเป็นต้นกำเนิดของศิลปะแบบบารอกและลัทธิคลาสสิกใหม่ ศิลปิน จิตรกร ประติมากร และสถาปนิกที่มีชื่อเสียงมากมาย ร่วมกันรังสรรค์ผลงานจนทำให้โรมเป็นศูนย์กลางทางผลงานของงานศิลปะมากมาย ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าวได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล มีส่วนช่วยสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอก ต่อมา ใน ค.ศ. 1871 โรมกลายเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรอิตาลีซึ่งกลายมาเป็นสาธารณรัฐอิตาลีใน ค.ศ.
โคลอสเซียม
ระยะทาง: ประมาณ 1431 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.89027778,12.49222222
โคลอสเซียม (อังกฤษ: Colosseum), โคลิเซียม (อังกฤษ: Coliseum) หรือทวิอัฒจันทร์ฟลาเวียน (อังกฤษ: Flavian Amphitheatre; ละติน: Amphitheatrum Flavium; อิตาลี: Anfiteatro Flavio หรือ Colosseo) เป็นสนามกีฬากลางแจ้งขนาดใหญ่ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม เริ่มสร้างขึ้นในสมัยจักรพรรดิเวสเปเซียนแห่งจักรวรรดิโรมัน และสร้างเสร็จในสมัยของจักรพรรดิไททัส ในคริสต์ศตวรรษที่ 1 อัฒจันทร์เป็นรูปวงกลมก่อด้วยอิฐและหินทรายวัดโดยรอบได้ประมาณ 527 เมตร สูง 57 เมตร สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 50,000 คน มีการออกแบบอย่างชาญฉลาดโดยสร้างให้สนามกีฬามีลักษณะเป็นรูปวงรี เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกเข้าใกล้นักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำเพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามขณะเกิดฝนตก ถือเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่าง ๆ ในปัจจุบัน ใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 10 ปี 7 กรกฎาคม พ.ศ.
อัครมหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน
ระยะทาง: ประมาณ 2138 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.88583333,12.50555556
อัครมหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน ในพระสันตะปาปา (อิตาลี: Arcibasilica Papale di San Giovanni in Laterano) หรือรู้จักกันทั่วไปในชื่อ มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน (อิตาลี: Basilica di San Giovanni in Laterano) หรือเรียกอย่างสั้นว่า มหาวิหารลาเตรัน เป็นมหาวิหารเอกในกรุงโรมและเป็นอาสนวิหารประจำตำแหน่งมุขนายกแห่งกรุงโรม นับเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดและมีตำแหน่งสูงสุดในบรรดามหาวิหารเอกทั้งสี่แห่งในกรุงโรม และมีสถานะเป็นโบสถ์แม่ของโบสถ์ทั้งปวงในคริสตจักรโรมันคาทอลิก อัครมหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน เป็นมหาวิหารที่เก่าแก่มากที่สุดและมีความอาวุโสสูงสุดในบรรดามหาวิหารเอกทั้งสี่ในพระสันตะปาปาซึ่งทั้งหมดตั้งอยู่ในโรม มีลำดับศักดิ์อยู่เหนือแม้กระทั่งมหาวิหารนักบุญเปโตร และเป็นเพียงอาสนวิหารเพียงแห่งเดียวในโลกที่มีฐานะเป็น อัครมหาวิหาร และเนื่องจากเป็นอาสนวิหารที่เก่าแก่ที่สุด จึงได้รับการยกย่องให้เป็นอาสนวิหารแม่ของศาสนจักรโรมันคาทอลิก หัวหน้าพระคนบัจจุบันคือ พระคาร์ดินัลอากอสตีโน วัลลี ซึ่งเป็นคาร์ดินัลใหญ่แห่งมุขมณฑลโรม ในขณะที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นแคนันกิตติมศักดิ์ (honorary canon) ประจำมหาวิหารฯ โดยตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งแคนันกิตติมศักดิ์นี้เป็นตำแหน่งที่สืบทอดในหมู่ประมุขแห่งฝรั่งเศสมาตั้งแต่สมัยของพระเจ้าอ็องรีที่ 4 แห่งฝรั่งเศส ด้านหน้าบริเวณทางเข้า มีศิลาจารึกเป็นภาษาละตินขนาดใหญ่ว่า Clemens XII Pont Max Anno V Christo Salvatori In Hon SS Ioan Bapt et Evang ซึ่งแปลอย่างย่อได้ว่า "สมเด็จพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 12 ในปีที่ 5 แห่งสมณสมัย ได้ทรงอุทิศอาคารหลังนี้แก่พระคริสต์เจ้าผู้ช่วยให้รอด เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญยอห์นผู้ทำพิธีล้างและนักบุญยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสาร" หรือมีความหมายก็คือ เดิมที มหาวิหารแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่พระเยซู และในหลายศตวรรษต่อมาก็ประกาศร่วมอุทิศให้แก่นักบุญยอห์นทั้งสอง คือยอห์นผู้ให้บัพติศมาและยอห์นผู้นิพนธ์พระวรสาร อัครมหาวิหารฯ ตั้งอยู่ในกรุงโรม แต่อยู่นอกเขตแดนของนครรัฐวาติกันประมาณ 4 กิโลเมตรไปทางตะวันออกเฉียงเหนือ แม้จะไม่ได้อยู่ในวาติกัน แต่อัครมหาวิหารแห่งนี้มีสิทธิสภาพนอกอาณาเขตในฐานะสมบัติของสันตะสำนัก จากผลของสนธิสัญญาลาเตรัน ค.ศ.
มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง
ระยะทาง: ประมาณ 2476 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.85861111,12.47722222
มหาวิหารนักบุญเปาโลนอกกำแพง (อิตาลี: Basilica di San Paolo fuori le Mura; อังกฤษ: Basilica of St Paul Outside the Walls/St Paul-without-the-Walls) เป็นหนึ่งในสี่มหาวิหารเอกหรือมหาวิหารสันตะปาปา อีกสามแห่งที่เหลือ ได้แก่ มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร และมหาวิหารนักบุญเปโตร
มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร
ระยะทาง: ประมาณ 2388 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.8975,12.49861111
มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเร (อิตาลี: Basilica di Santa Maria Maggiore) ในภาษาอังกฤษมักเรียกว่า St. Mary Major ชื่ออื่น ๆ ที่เป็นที่รู้จักกันในภาษาอิตาลีคือ “Basilica di Santa Maria della Neve” (มหาวิหารแม่พระแห่งหิมะ) หรือ “Basilica Liberiana” (ภาษาอังกฤษ: Liberian Basilica) เป็นหนึ่งในสี่มหาวิหารเอกของคริสตจักรโรมันคาทอลิก ตั้งอยู่ภายในกรุงโรม ประเทศอิตาลี และถือเป็นหนึ่งในห้า “มหาวิหารอัครบิดร” (คือสี่มหาวิหารเอกรวมทั้งมหาวิหารนักบุญลอว์เรนซ์นอกกำแพง) มหาวิหารซันตามาเรียมัจโจเรเป็นมหาวิหารที่เก่าแก่ที่สุดของโรม และเป็นที่ชุมนุมของคริสต์ศาสนิกชนยุคแรก และเป็นมหาวิหารแห่งเดียวในโรมที่ยังคงลักษณะสถาปัตยกรรมที่สร้างไว้แต่ดั้งเดิมถึงแม้ว่าจะได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวเมื่อ ค.ศ.
จัตุรัสนาโวนา
ระยะทาง: ประมาณ 2122 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.89888889,12.47305556
จัตุรัสนาโวนา (อิตาลี: Piazza Navona) เป็นจัตุรัสแห่งหนึ่งในกรุงโรม เคยเป็นสนามกีฬาโรมันโบราณในคริสต์ศตวรรษที่ 1 ที่ชื่อว่า Stadium of Domitian ซึ่งชาวโรมันจะเดินทางมาที่นี่เพื่อชม agones ("กีฬา") โดยในสมัยนั้นสถานที่แห่งนี้รู้จักในชื่อว่า 'Circus Agonalis' (สนามกีฬา) เชื่อกันว่าชื่อของจัตุรัสนี้มาจากการเรียกชื่อสถานที่เพี้ยนจาก 'in agone' เป็น 'navone' จนกระทั่งกลายมาเป็น 'navona' ในที่สุด
เกาะไทเบอร์
ระยะทาง: ประมาณ 1164 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.89083333,12.47722222
เกาะไทเบอร์ (อังกฤษ: Tiber Island) เป็นเกาะรูปร่างคล้ายเรือที่เกี่ยวข้องกับการเยียวยามานาน เป็นเกาะขนาดเล็กและเพียงเกาะเดียวที่อยู่ในแม่น้ำไทเบอร์ที่ไหลผ่านกรุงโรม ตั้งอยู่ที่โค้งด้านทิศใต้ของของแม่น้ำไทเบอร์ ในกรุงโรม อิตาลี ยาว 270 เมตร และกว้าง 67 เมตร
เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา
ระยะทาง: ประมาณ 1367 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.89213889,12.48668889
เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินา (อังกฤษ: Temple of Antoninus and Faustina) เป็นเทวสถาน (Roman temple) โรมันโบราณที่ตั้งอยู่ในกรุงโรมภายในบริเวณที่เรียกว่าฟอรุมโรมัน (Roman Forum) บนถนนซากรา (Via Sacra) ตรงกันข้ามกับเรเจีย (Regia) เทวสถานแห่งอันโตนินัสและฟาอัสตินาสร้างในปี ค.ศ.
วิหารแพนธีอัน
ระยะทาง: ประมาณ 2019 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.8986,12.4768
วิหารแพนธีอัน (อังกฤษ: Pantheon, หรือ ; ละติน: Pantheum, มาจาก กรีก: Πάνθεον ที่แปลว่า “พระเจ้าทั้งหมด”) เป็นสิ่งก่อสร้างที่ตั้งอยู่ในกรุงโรม เดิมสร้างโดยมาร์คัส วิพซานิอัส อกริพพา (Marcus Vipsanius Agrippa) สำหรับเป็นเทวสถาน (Roman temple) สำหรับเทพต่างๆ ของโรมันโบราณ โรมันโบราณ ต่อมาก็ได้รับการสร้างใหม่ในต้นคริสต์ศตวรรษที่ 2
เสาตรายานุส
ระยะทาง: ประมาณ 1709 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.89583333,12.48416667
เสาตรายานุส (อังกฤษ: Trajan's Column; อิตาลี: Colonna Traiana; ละติน: Columna Traiani) เป็นอนุสาวรีย์ชัยโรมันที่ตั้งอยู่ในกรุงโรมที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่จักรพรรดิตรายานุสแห่งจักรวรรดิโรมันและอาจจะก่อสร้างภายใต้การควบคุมของสถาปนิกอพอลโลโดรัสแห่งดามาสคัส (Apollodorus of Damascus) ตามคำสั่งของวุฒิสภาโรมัน เสาตั้งอยู่ที่จัตุรัสตรายานุสไม่ไกลจากเนินคิรินาลทางด้านเหนือของจตุรัสโรมัน เสาตรายานุสสร้างเสร็จใน ค.ศ. 113 เป็นเสาอิสระที่มีชื่อเสียงตรงที่มีภาพสลักนูนเป็นเกลียวรอบเสาที่เป็นการสรรเสริญชัยชนะของตรายานุสในสงครามตรายานุสเดเซียน (Trajan's Dacian Wars) และเป็นอนุสาวรีย์ชัยที่มีอิทธิพลในการก่อสร้างอนุสาวรีย์ชัยอื่น ๆ ต่อมาตั้งแต่ในสมัยโบราณมาจนถึงสมัยใหม่ เสาตรายานุสสูงราว 30 เมตร (98 ฟุต) หรือ 35 เมตร (115 ฟุต) ถ้ารวมฐานขนาดใหญ่ ตัวเสาเป็นปล้องหินอ่อน 20 ปล้องจากหินอ่อนคาร์รารา แต่ละปล้องหนักราว 32 ตัน โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 3.7 เมตร (12.1 ฟุต) รูปสลักนูนเวียนรอบเสายาว 190 เมตร (620 ฟุต) วนรอบเสา 23 รอบ ภายในเสาเป็นช่องกลวงที่มีบันไดวน 185 ขั้นที่มีฐานชมทิวทัศน์อยู่ข้างบน ส่วนยอดของเสาตรายานุสมีน้ำหนัก 53.3 ตัน และต้องยกให้สูงประมาณ 34 เมตร (112 ฟุต) บนเหรียญโบราณแสดงภาพประติมากรรมรูปนกอยู่บนยอด ซึ่งอาจจะเป็นเหยี่ยว หลังสร้างเสร็จ มีการตั้งอนุสาวรีย์จักรพรรดิตรายานุสไว้ตรงนี้ แต่หายไปในยุคกลาง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ค.ศ.
กีร์กุสมักซิมุส
ระยะทาง: ประมาณ 712 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.8859,12.4857
กีร์กุสมักซิมุส (ละติน: CIRCVS MAXIMVS, "วงกลมใหญ่สุด") เป็นสนามกีฬากลางแจ้งที่ยิ่งใหญ่แห่งหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน เช่นเดียวกับโคลอสเซียม ปัจจุบันเป็นสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ในใจกลางกรุงโรม กีร์กุสมักซิมุสเป็นสนามกีฬาที่ใช้สำหรับแข่งรถม้าโดยเฉพาะ แต่ก็มีการแข่งขันอย่างอื่นด้วย เช่น กลาดิอาตอร์ สนามมีสนามหญ้าที่ยาวกว่า 2,000 ฟุต 650 ฟุต บรรจุคนดูได้ 25,000 คน นับเป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งมีคนตายมากเพราะในการแข่ง อันเนื่องจากไม่มีกติกาใด ๆ ในการแข่งขัน ขอเพียงให้รถเข้าสู่เส้นชัยได้เป็นพอ กีร์กุสมักซิมุสได้รับการสร้างขึ้นในสมัยจูเลียส ซีซาร์ และปรับปรุงบูรณะเรื่อยมาในสมัยจักรพรรดิเอากุสตุส และบูรณะอย่างสวยงามในสมัยจักรพรรดิแว็สปาซิอานุส จนเสร็จสมบูรณ์มีความยาว 2,037 ฟุต กว้าง 387 ฟุต และจุคนดูได้ 150,000 คน ด้านทิศเหนือของกีร์กุสมักซิมุส มีวิหารใต้ดินสร้างขึ้นเพื่อบูชาเทพีเวสตา ซึ่งเป็นเทพีแห่งเตาไฟด้วย และรอบ ๆ สนามก็มีสิ่งก่อสร้างที่เป็นตึกอาคารและสถานที่ใต้ดินต่าง ๆ อีกหลายแห่ง โดยเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่นานถึง 6 วัน 6 คืนในโรม ในปี ค.ศ.
กูริอาป็อมแปย์ยุส
สถานที่ประชุมของวุฒิสภาโรมัน
ระยะทาง: ประมาณ 1686 เมตร
ละติจูดและลองจิจูด: 41.895,12.474
กูริอาป็อมแปย์ยุส (ละติน: Curia Pompeia) เป็นหนึ่งในห้องประชุมที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์จากสมัยสาธารณรัฐโรมัน กูริอา คือสิ่งก่อสร้างที่ได้รับการกำหนดให้เป็นสถานที่ประชุมวุฒิสภา กูริอาป็อมแปย์ยุสตั้งอยู่ที่ทางเข้าโรงละครป็อมแปย์ยุส แอล.
สภาพอากาศในพื้นที่ซึ่ง IP นี้ตั้งอยู่
ท้องฟ้าแจ่มใส
7 องศาเซลเซียส
7 องศาเซลเซียส
6 องศาเซลเซียส
8 องศาเซลเซียส
1018 hPa
63 %
1018 hPa
1015 hPa
10000 เมตร
0.89 เมตร/วินาที
3.58 เมตร/วินาที
338 ระดับ
1 %